
ฮูดดูดควัน (Exhaust Hood) มีหน้าที่หลักในการดักจับควัน ความร้อน ไอน้ำมัน และกลิ่นจากการปรุงอาหาร เพื่อป้องกันการกระจายสู่พื้นที่ทำงานและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศในครัว หากออกแบบไม่ถูกต้อง อาจทำให้ควันรั่ว ควันย้อน หรือพัดลมทำงานหนักเกินไปสิ้นเปลืองไฟฟ้า
หลักการเบื้องต้นของการกำหนดขนาดฮูดคือ ฮูดต้องครอบคลุมพื้นที่ของอุปกรณ์ปรุงอาหาร และมีขอบยื่นออกมาจากอุปกรณ์เล็กน้อยเพื่อดักจับควันได้เต็มที่
ความกว้าง (Width) = กว้างกว่าอุปกรณ์ปรุงอาหารด้านละ 150–300 มม.
ความลึก (Depth) = ลึกกว่าอุปกรณ์ด้านหน้าอย่างน้อย 300 มม.
ความสูง (Height) = มักติดตั้งห่างจากพื้นโต๊ะเตาประมาณ 750–1,200 มม.
ตัวอย่างการคำนวณ
หากเตากว้าง 1.2 เมตร และลึก 0.8 เมตร
→ ฮูดควรมีขนาดประมาณ กว้าง 1.5 ม. × ลึก 1.1 ม.
ขนาดพัดลมจะขึ้นอยู่กับปริมาณอากาศที่ต้องการดูดออก ซึ่งวัดเป็น CFM (Cubic Feet per Minute) หรือ CMH (ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง)
โดยทั่วไป ความเร็วลมที่เหมาะสม:
ครัวบ้าน: 0.3 – 0.5 m/s
ครัวร้านอาหาร: 0.6 – 0.8 m/s
ครัวอุตสาหกรรมหนัก: 0.8 – 1.0 m/s
ตัวอย่าง
ฮูดขนาด 1.5 × 1.1 ม. = 1.65 m²
เลือกความเร็วลม 0.7 m/s
เมื่อได้ค่าปริมาณลม (Airflow) แล้ว ต้องเลือกพัดลมให้เหมาะสม โดยพิจารณา:
ค่า Airflow (m³/h หรือ CFM) – ต้องไม่ต่ำกว่าที่คำนวณได้
ค่า Static Pressure (Pa) – ต้องเผื่อแรงดันตกคร่อมท่อดักท์, ฟิลเตอร์, และโค้งงอของท่อ
ประเภทพัดลม
Axial Fan (พัดลมใบพัดตรง) – เหมาะกับระยะท่อสั้น
Centrifugal Fan (พัดลมแรงเหวี่ยง) – เหมาะกับท่อยาว มีแรงดันสูงกว่า
เสียงรบกวน (Noise Level) – ค่า dB ต้องเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
ประหยัดพลังงาน – เลือกพัดลมที่มีมาตรฐานประสิทธิภาพสูง
ขนาดฮูดควรใหญ่กว่าพื้นที่เตาเล็กน้อยเพื่อดักจับควันเต็มประสิทธิภาพ
ปริมาณลมคำนวณจากพื้นที่หน้าตัด × ความเร็วลม
พัดลมต้องเลือกให้ตรงกับค่า Airflow และ Static Pressure
ใช้พัดลมแรงเหวี่ยง (Centrifugal Fan) หากมีท่อยาวหรือมีแรงดันต้านทานสูง